ปฏิวัติการรีไซเคิลสิ่งทอโดยการใช้ระบบอัตโนมัติในการคัดแยกสิ่งทอ

ในยุโรป ปริมาณเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีสิ่งทอที่ถูกทิ้งถึงประมาณ 7.5 ล้านตันต่อปี แต่มีเพียง 2.2 ล้านตันเท่านั้นที่ถูกนำไปรีไซเคิล ที่เหลือส่วนใหญ่จบลงที่หลุมฝังกลบหรือถูกเผาทำลาย อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปในไม่ช้า เนื่องจากกฎระเบียบใหม่ของรัฐบาลที่กำลังจะมาถึง ซึ่งคาดว่าจะทำให้ปริมาณสิ่งทอที่ถูกรวบรวมเพื่อการรีไซเคิลเพิ่มขึ้นเป็น 4.5 ถึง 7.2 ล้านตันภายในปี 2573
อเล็กซองเดร บุตเต้ ผู้จัดการทั่วไปของ ANDRITZ Laroche กล่าวว่า "กฎระเบียบใหม่หมายความว่า ภายในปี 2568 ทุกประเทศในยุโรปจะไม่สามารถกำจัดเสื้อผ้าด้วยการฝังกลบหรือเผาได้อีกต่อไป ทุกประเทศจะต้องมีระบบการจัดเก็บรองรับสิ่งทอเหล่านี้"
เพื่อรับมือกับความท้าทายนี้ ผู้ประกอบการชาวฝรั่งเศสสองคนคือ เอริค โบเอล และ เอเตียน วีโรท์ จึงได้ก่อตั้งบริษัท Nouvelles Fibres Textiles ขึ้นมา โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการรีไซเคิลและคัดแยกสิ่งทอในฝรั่งเศสให้ก้าวไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนในระดับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
โบเอล ซึ่งเป็นผู้อำนวยการทั่วไปของบริษัท Les Tissages de Charlieu (LTC) และวีโรท์ ซึ่งเป็นผู้อำนวยการทั่วไปของ Synergies TLC ได้นำความเชี่ยวชาญของตนมาผนึกกำลังกันเพื่อทำให้กระบวนการคัดแยกสิ่งทอมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าทางเศรษฐกิจมากขึ้น
การดำเนินการนี้จะเป็นจริงไม่ได้หากขาดความร่วมมือจากบริษัทผู้เชี่ยวชาญทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ Nouvelles Fibres Textiles, Les Tissages de Charlieu, Pellenc ST และ ANDRITZ Laroche ซึ่งแต่ละบริษัทได้นำความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการคัดแยก การรีไซเคิล และการผลิตสิ่งทอมาทำงานร่วมกัน โดยทั้งสี่บริษัทกำลังร่วมกันพัฒนาโรงงานคัดแยกสิ่งทอที่ทันสมัย ซึ่งจะใช้เวลา 60% สำหรับการดำเนินงานเชิงพาณิชย์ และอีก 40% สำหรับการวิจัยและพัฒนา
ด้วยความร่วมมือนี้ การรีไซเคิลสิ่งทอในยุโรปกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของประสิทธิภาพและความยั่งยืน โดยการใช้ระบบอัตโนมัติในการคัดแยกสิ่งทอไม่เพียงแต่ช่วยปรับปรุงกระบวนการรีไซเคิลเท่านั้น แต่ยังเป็นการปูทางสู่อนาคตที่สิ่งทอจะถูกนำกลับมาใช้ซ้ำและรีไซเคิลในวงกว้าง ซึ่งมีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมแฟชั่นมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น
ที่มา : https://www.texspacetoday.com/automation-of-sorting-revolutionizes-textile-recycling/